เชื้อเพลิงเอทานอลถือเป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ประเภทหนึ่ง ซึ่งเราสามารถปลูกพืชและนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ไม่มีวันหมด โดยสามารถใช้เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเบนซินในอัตราส่วนต่างๆ ซึ่งเราเรียกว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ หรือผสมกับน้ำมันดีเซลก็จะได้เป็น น้ำมันดีโซฮอล์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เอทานอลบริสุทธิ์เป็นเชื้อเพลิงโดยตรงได้อีกด้วย การใช้เชื้อเพลิงเอทานอลในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ จะสามารถลดการปลดปล่อยมลพิษได้เกือบทุกชนิด เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน เบนซิน และไนโตรเจนออกไซด์ เป็นต้น
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ คือ น้ำมันเบนซินผสมกับเอทานอลในสัดส่วนต่างๆ ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ในสัดส่วนผสมเอทานอล 10% 20% และ 85% จึงเรียกชื่อตามสัดส่วนผสมของ เอทานอลว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 E20 และ E85
- แต่เดิมนั้นเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์คือน้ำมันที่ทำมาฟอสซิล ซึ่งเมื่อใช้แล้วก็จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปสู่อากาศ ในทางตรงกันข้ามเอทานอลเป็นน้ำมันที่ผลิตจากพืช เมื่อมลพิษปล่อยออกมาก็จะถูกต้นไม้รวมถึงอ้อยดูดซับออกไป ทำให้เป็นพลังงานที่สะอาดเมื่อเทียบการใช้น้ำมันที่มาจากฟอสซิล
- เอทานอล 1 ลิตร ลดการปลดปล่อย CO2 ได้ 1.55 kgCO2 ปัจจุบันประเทศไทยใช้เอทานอลวันละ 3.5 ล้านลิตร คิดเป็นการใช้เอทานอลประมาณ 1,200 ล้านลิตรต่อปี สามารถลดการปลดปล่อย CO2 ได้ประมาณ 2 ล้านตันต่อปี เทียบเท่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของป่าสักประมาณ 900,000 ไร่ต่อปี
แต่เดิมนั้นโมลาสไม่ได้มีความต้องการในตลาดมากนัก จึงมิได้ดีมีราคาสูง แต่เมื่อประเทศไทยได้นำโมลาสมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตเอทานอล ก็ทำให้มีความต้องการและราคาเพิ่มขึ้นมากตามลำดับ โมลาสนั้นก็เป็นสินค้าที่นำมาใช้คำนวณราคาอ้อยด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าราคาโมลาสที่นำมาคำนวณเป็นราคาอ้อยในปัจจุบันมีราคาเพิ่มขึ้นสูงกว่าแต่ก่อนอย่างมาก
รถยนต์ FFV (Flex Fuel Vehicle) คือรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้ทุกชนิด ตั้งแต่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ E20 และแก๊สโซฮอล์ E85 ปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์ FFV เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น ฮอนด้า มิตซูบิชิ เชฟโรเลต โตโยต้า มาสด้า